top of page

ธาตุเหล็ก สำคัญกับคนท้องอย่างไร? ควรกินธาตุเหล็กเท่าไหร่ดี? (Iron and pregnancy)

อัปเดตเมื่อ 27 มี.ค. 2566

ธาตุเหล็ก หรือ Iron ป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดงในโลหิตเป็นตัวนำออกซิเจนและสารอาหารต่างๆ ไปสู่เซลล์ต่างๆ ในร่างกาย ธาตุเหล็กมีความสำคัญมากต่อพัฒนาการของร่างกายและสมองของทารกตั้งแต่อยู่ในครรภ์ จึงมีความสำคัญมาก ที่คุณแม่ทุกคนควรได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอ วันนี้เราจะมารู้จักความสำคัญของธาตุเหล็กมากขึ้นนะคะ


ทำไมธาตุเหล็กจึงมีความสำคัญ?


ธาตุเหล็ก (Iron) เป็นส่วนประกอบสำคัญของเม็ดเลือดแดง ซึ่งทำหน้าที่ในการนำพาอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ ของร่างกาย แม้ว่าช่วงที่คุณแม่ตั้งท้อง จะไม่ต้องสูญเสียเลือดจากประจำเดือน แต่ในช่วงที่คุณแม่ตั้งท้องร่างกายจะมีปริมาณเลือดขึ้นถึง 50% ทำให้ความต้องการใช้ธาตเหล็กสูงขึ้นเช่นกัน


ธาตุเหล็กที่เพียงพอมีความสำคัญต่อการนำอ๊อกซิเจนไปเลี้ยงทารกที่กำลังเจริญเติยโต หากขาดธาตุเหล็ก คุณแม่อาจมีภาวะเลือดจาง หรือ Anemia ซึ่งจะส่งผลต่อการเจริญเติบโตของทารก การสร้างสมองของทารก คุณแม่ที่ขาดธาตุเหล็ก อาจทำให้ทารกคลอดก่อนกำหนด หรือ ทารกมีน้ำหนักน้อย รวมถึงส่งผลต่อการเรียนรู้ในระยะยาวหลังจากที่ทารกคลอดออกมาได้


ในช่วงตั้งครรภ์คุณแม่ต้องการธาตุเหล็กเท่าไหร่?


ในช่วงที่คุณแม่ตั้งครรภ์ คุณแม่ต้องการธาตุเหล็ก 27 มิลลิกรัมต่อวัน เพื่อลดภาวะเลือดจาก ซึ่งกรณีที่คุณแม่มีภาวะซีด อาจต้องการธาตุเหล็กสูงถึง 40-60 มิลลิกรัมต่อวันได้ โดยส่วนใหญ่ Prenatal vitamins จะมีส่วนผสมของธาตุเหล็กอยู่ที่ 27 มิลลิกรัม ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายในช่วงตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม การบริโภคอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการรับธาตุเหล็กเพิ่มมากขึ้น


อาหารธาตุเหล็กสูง


แม่ๆ สามารถเพิ่มอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง ในแต่ละวันได้ โดยอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงประกอบไปด้วย

  • ปลาซาดีนกระป๋อง : มีธาตุเหล็ก 2.4 มิลลิกรัม

  • เนื้อ : มีธาตุเหล็ก 2 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 85 กรัม

  • เนื้อไก่ : มีธาตุเหล็ก 1 มิลลิกรัม ต่อน้ำหนัก 85 กรัม

  • ไข่ไก่ : มีธาตุเหล็ก 1 มิลลิกรัม

  • ผักโขม : มีธาตุเหล็ก 3 มิลลิกรัม ต่อครึ่งถ้วย

  • ถั่วแดง : มีธาตุเหล็ก 2 มิลลิกรัม ต่อครึ่งถ้วย

  • เต้าหู้ : มีธาตุเหล็ก 3 มิลลิกรัม ต่อครึ่งถ้วย

  • ซีเรียล : มีธาตุเหล็ก 18 มิลลิกรัม ต่อ 1 serve



สามารถเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็กเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร?


วิตามินซี เป็นตัวช่วยให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็ก และสามารถนำธาตุเหล็กไปใช้งานได้ดีขึ้น โดยควรทานอาการที่มีวิตามินซีควบคู่ไปกับอาหารที่มีธาตุเหล็ก เช่น ทานส้ม หรือ มะเขือเทศเสริมในอาหารมื้อนั้นๆ สำหรับ Prenatal vitamins เองมีส่วนผสมของวิตามินซีอยู่แล้ว ซึ่งสามารถช่วยในการดูดซึมของธตุเหล็กเข้าสู่ร่างกายได้


อย่างไรก็ตาม อาหารกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม (Daily) หรือ แคลเซียม อาจลดการดูดซึมของธาตุเหล็กได้ กรณีที่ทานธาตุแคลเซียมเสริม หรือ ทานอาหารกลุ่มผลิตภัณฑ์จากนม ควรทานห่างจากธาตุเหล็กประมาณ 1- 2 ชั่วโมง


ช่วงท้องคุณแม่ต้องการธาตุเหล็กเท่าไหร่?


โดยปกติผู้หญิงจะต้องการธาตุเหล็กเป็นพื้นฐานเนื่องจาก ผู้หญิงมักจะเสียเลือดจากประจำเดือนในทุกๆ เดือน โดยกรณีที่ยังไม่วางแผนตั้งครรภ์ ผู้หญิงจะต้องการธาตุเหล็กประมาณ 18 มิลลิกรัมต่อวัน


แต่ในช่วงที่คุณแม่วางแผนจะมีลูก หรือ กำลังตั้งครรภ์ จะมีความต้องการธาตุเหล็กเพิ่มมากขึ้น คือต้องการประมาณ 27 มิลลิกรัมต่อวัน


แต่ในคุณแม่บางท่านที่มีภาวะซีด อาจมีความต้องการธาตุเหล็กในช่วงที่ตั้งครรภ์มากถึง 30-60 มิลลิกรัมต่อวัน ดังนั้น ควรปรึกษาแพทย์ที่คุณแม่ฝากท้องด้วยเสมอค่ะ


จำเป็นต้องทานวิตามินบำรุงเสริมหรือไม่?


ตามปกติ วิตามินบำรุงครรภ์ หรือ Prenatal vitamins จะมีส่วนผสมของธาตุเหล็กด้วยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ควรอ่านฉลากเพื่อตรวจสอบก่อนเสมอ ธาตุเหล็กโดยทั่วไปปลอดภัยที่จะทานในคนท้อง โดย ธาตุเหล็กใน Prenatal vitamins โดยทั่วไปจะอยู่ในรูปของ Ferrous fumarate ซึ่งอาจทำให้มีอาการท้องผูก หรือถ่ายดำได้


แต่ใน Prenatal vitamins บางชนิด ใช้ส่วนผสมของธาตุเหล็ก ในรูปแบบของ Ferrous Bisglycinate chelate ซึ่งสามารถลดอาการท้องผูกในช่วงตั้งครรภ์ได้เป็นอย่างดี เช่นยี่ห้อ Naturelo เป็นต้น


อย่างไรก็ตามการทานธาตุเหล็กที่มากเกินไป อาจส่งผลให้เกิดภาวะธาตุเหล็กเกินได้ โดยอาการที่ควรสงสัยภาวะธาตุเหล็กเกิน (Iron overdose) คือ

  • ท้องเสีย/ ปวดท้อง

  • อาเจียนเป็นเลือด

  • หายใจเร็วผิดปกติ

  • อ่อนแรง/ อ่อนเพลียมาก

หากมีอาการต่างๆ ที่กล่าวมา ควรรีบปรึกษาแพทย์ทันทีค่ะ


กล่าวโดยสรุปคือ ธาตุเหล็กมีความสำคัญต่อการตั้งครรภ์มาก ทั้งต่อตัวมารดา และต่อทารก หากคุณแม่ทาน Prenatal vitamins อยู่แล้ว ร่วมกับการทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูงอย่างหลากหลาย คุณแม่จะได้รับธาตุเหล็กอย่างเพียงพอตลอดการตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตามคุณแม่ที่มีภาวะซีด ควรได้รับคำแนะนำ จากแพทย์ที่ดูแลอยู่อย่างใกล้ชิดค่ะ


ธาตุเหล็กที่แนะนำ :




วันนี้หวังว่า คุณแม่ทุกท่านจะได้ความรู้จากบทความนี้นะคะ แล้วกลับมาติดตามกันได้ใหม่ ในบทความหน้านะคะ ดูแลสุขภาพนะคะ แม่ๆ


เขียนโดย


พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย (Tantawan Jomkwanjai. MD) Dr. Noi The Family


#คนท้องควรกินธาตุเหล็กเท่าไหร่ #ธาตุเหล็กกับคนท้อง #ประโยชน์ของธาตุเหล็กในคนท้อง #ประโยชน์ของธาตุเหล็ก


bottom of page