top of page

ประโยชน์ของ "แคลเซียม" ในคนท้อง (Benefits of calcium in pregnancy)

อัปเดตเมื่อ 9 ธ.ค. 2566

แคลเซียม (Calcium) มีประโยชน์มากๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากมีความสำคัญต่อการสร้างกระดูกและฟันของทารก และทำให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น แล้วคุณแม่ต้องการแคลเซียมเท่าไหร่? เทคนิคการกินเพื่อให้ได้แคลเซียมอย่างเพียงพอทำอย่างไร? แล้วควรกินวิตามินแคลเซียมเสริมหรือไม่? กินวิตามินเสริมเท่าไหร่ดี? วันนี้หมอหน่อยมีคำตอบค่ะ


แคลเซียมมีประโยชน์ต่อร่างกายของคุณ ไม่ว่าคุณจะท้องหรือไม่ก็ตามนะคะ นอกจากแคลเซียมจะช่วยให้กระดูกของทารกแข็งแรงแล้ว ยังช่วยให้กระดูกของคุณแม่แข็งแรงด้วย ลดโอกาสเกิดโรคกระดูกพรุน เมื่อคุณแม่อายุมากขึ้น หรือช่วงเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนค่ะ


ประโยชน์ของแคลเซียมในช่วงท้อง


แคลเซียมจำเป็นอย่างมากสำหรับทารกที่จะนำไปสร้างกระดูกและฟัน นอกจากนี้ทารกยังใช้แคลเซียมในการสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงหัวใจและระบบประสาทของทารกก็ใช้แคลเซียมด้วย หากทารกได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ อาจทำให้การสร้างของกระดูกผิดปกติ หรือการเติบโตของอวัยวะบางชนิดไม่ดีเท่าที่ควรได้


นอกจากนี้ แคลเซียมยังมีความสำคัญต่อมารดา เนื่องจากแคลเซียมที่เพียงพอจะช่วยลดโอกาสเกิดภาวะความดันโลหิตสูงช่วงตั้งครรภ์ หากขาดแคลเซียมตัวมารดาอาจมีภาวะความดันสูง (Preeclampsia) ในช่วงตั้งท้องได้


ในช่วงไตรมาส 2-3 กระดูกของทารกจะเริ่มสร้างอย่างรวดเร็ว ทารกอาจต้องการใช้แคลเซียมเพิ่มมากถึง 250-350 มิลลิกรัมต่อวัน หากคุณแม่มีแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของทารก ทารกจะดึงแคลเซียมสะสมของคุณแม่ไปใช้ ส่งผลให้แคลเซียมสะสมของคุณแม่น้อยลง อาจทำให้เกิดโรคกระดูกพรุนได้ง่ายขึ้นในภายหลังได้ คุณแม่หลายคนที่ทานแคลเซียมไม่เพียงพอในช่วงตั้งครรภ์และช่วงให้นมบุตรมักเกิดภาวะกระดูกพรุนตามมาได้ง่ายขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น


ดังนั้น การทานแคลเซียมเสริมให้เพียงพอในช่วงที่ตั้งครรภ์และให้นมลูก จึงมีความสำคัญมาก


ในช่วงท้องคุณแม่ต้องการแคลเซียมเท่าไหร่?


จริงๆ แล้ว ผู้หญิงเราทุกคนควรได้รับการสะสมแคลเซียมไว้ให้เพียงพอตั้งแต่อายุน้อยๆ นะคะ ในหญิงที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ต้องการแคลเซียมเสริมมากถึง 1,300 มิลลิกรัม สำหรับในช่วงที่ตั้งท้องคุณแม่ต้องการแคลเซียมเสริม 1,000-1,300 มิลลิกรัมต่อวัน ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของทารก และลดโอกาสเกิดผลแทรกซ้อนระหว่างการตั้งครรภ์ค่ะ


อาหารที่มีแคลเซียมสูง


อาหารเป็นแหล่งแคลเซียมหลักที่คุณแม่สามารถทานเพิ่มได้ในแต่ละวันค่ะ อาหารหลายชนิดมีแคลเซียมอยู่ หากคุณแม่เลือกทานอาหารที่หลากหลายก็จะสามารถสะสมแคลเซียมได้เพียงพอใน 1 วัน โดยอาหารที่มีแคลเซียมสูงประกอบไปด้วย

  • นมวัว 250 ml มีแคลเซียม 300-400 มิลลิกรัม

  • โยเกิร์ต 200 กรัม มีแคลเซียม 350 มิลลิกรัม

  • ซีส 12 กรัม มีแคลเซียม 160 มิลลิกรัม

  • เต้าหู้ ครึ่งถ้วย มีแคลเซียม 250 มิลลิกรัม

  • ปลาซาดีนกระป๋อง 90 กรัม มีแคลเซียม 300 มิลลิกรัม

  • เมล็ด Chia 30 กรัม มีแคลเซียม 170 มิลลิกรัม

  • ไอซ์ครีมไขมันน้อย 50 กรัม มีแคลเซียม 48 มิลลิกรัม

  • บล็อคโคลี่ ครึ่งถ้วย มีแคลเซียม 21 มิลลิกรัม

นอกจากนี้ยังพบแคลเซียมใน ส้ม ผักใบเขียว และถั่วอีกหลายชนิดอีกด้วย อย่าลืมว่า ร่างกายของคุณใช้วิตามินดี (Vitamin D) ในการดูดซึมแคลเซียม ดังนั้น จึงควรทานอาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินดี หรือ โดนแสงแดด เพื่อให้ได้วิตามินดีอย่างเพียงพอด้วย


จำเป็นต้องทานแคลเซียมในรูปแบบวิตามินเสริมหรือไม่?


หากคุณทาน Prenatal multi vitamins อยู่แล้ว วิตามินเหล่านั้นมักจะมีแคลเซียมผสมอยู่ประมาณ 150-250 มิลลิกรัม ซึ่งถ้าคุณแม่คิดว่า สามารถทานอาหารต่างๆ แล้วได้รับแคลเซียมเพียงพอประมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวันก็ไม่จำเป็นต้องทานแคลเซียมเสริมค่ะ


อย่างไรก็ตาม พบว่าคุณแม่หลายท่านไม่สามารถทานแคลเซียมได้เพียงพอความต้องการต่อวัน การทานแคลเซียมเสริมจะช่วยเป็น Back up หนึ่งให้คุณแม่ได้ แคลเซียมโดยทั่วไปค่อนข้างปลอดภัยกับคนท้อง อาจมีผลข้างเคียงให้ท้องผูก หรือท้องอืดเท่านั้น ข้อควรระวังในการทานแคลเซียมเสริมคือควรทานคนละเวลากับธาตุเหล็ก เนื่องจากแคลเซียม อาจไปลดการดูดซึมของธาตุเหล็กได้ โดยอาจทานห่างกัน ประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้แคลเซียมมีผลต่อการดูดซึมของธาตุเหล็กค่ะ


ควรทานแคลเซียมเสริมเท่าไหร่ดี?


หากคุณแม่ทาน Prenatal vitamins อยู่แล้ว สามารถทานแคลเซียมเสริมได้ 600-650 มิลลิกรัม รวมกับการทานอาหารแคลเซียมสูง 1 มื้อ เช่น นมวัว นมถั่วเหลือง โยเกิร์ต หรือ ซีส ก็จะได้รับ แคลเซียมเพียงพอต่อวัน ประมาณ 1,000 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ


ในกรณีที่ไม่ได้ทาน Prenatal vitamins หรือไม่ทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง อาจต้องทานแคลเซียมในรูปแบบของวิตามินที่ 1,000 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ


แคลเซียมเสริมในรูปแบบของวิตามิน มักจะเม็ดใหญ่ กลืนลำบาก ทำให้แม่ๆ หลายคน ไม่ค่อยอยากจะทานกัน หมอหน่อยเลยได้เลือกวิตามินเสริมแคลเซียมในรูปแบบเม็ดเคี้ยวได้ เพื่อให้การทานแคลเซียมของคุณแม่ง่ายและมีความสุขขึ้นค่ะ


แคลเซียมแนะนำ :





หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์ต่อคุณแม่ไม่มากก็น้อยนะคะ และหวังว่าคุณแม่จะนำไปปรับใช้ในการดูแลการตั้งครรภ์ครั้งนี้ในสมบูรณ์และราบรื่นค่ะ แล้วมาติดตามกันได้ใหม่ในบทความหน้านะคะ


เขียนโดย


พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย (Tantawan Jomkwanjai. MD) Dr. Noi The Family


#ประโยชน์ของแคลเซียม #อาหารแคลเซียมสูง #แคลเซียมกับคนท้อง #คนท้องควรกินแคลเซียมเท่าไหร่ #วิตามินเสริมแคลเซียม



bottom of page