top of page
รูปภาพนักเขียนdrnoithefamily

แชร์ประสบการณ์การคลอด เรื่องที่อยากแนะนำคุณแม่ จากประสบการณ์ของหมอหน่อย (Delivery day)

อัปเดตเมื่อ 9 ธ.ค. 2566

สวัสดีค่ะแม่ๆ พ่อๆ ทุกท่าน ผ่านกันไปแล้วกับเรื่องราวช่วงท้องตลอด 9 เดือนที่ผ่านมา หมอหน่อยอาจจะมีบทความความรู้เพิ่มเติมมาให้เรื่อยๆ แต่เพื่อเป็นการสิ้นสุดความรู้ช่วงท้องแบบไม่เป็นทางการ หมอหน่อยเลยจะขอเล่าประสบการณ์การคลอด ในแบบที่ตัวหมอหน่อยประสบเอง และอาจช่วยแนะนำ เพื่อเป็นแนวทางให้ทุกคนได้ค่ะ ประสบการณ์ที่หน่อยอยากจะเล่า และแนะนำมีอะไรบ้าง? ไปติดตามกันค่ะ



1.เรากำหนดวันคลอดธรรมชาติไม่ได้จริง


หมอหน่อยตั้งใจจะคลอดธรรมชาติ คือรอให้ปวดท้องเองแล้วลองคลอดธรรมชาติดู จากสถิติพบว่า มากกว่า 50% มักจะคลอดก่อนวันที่กำหนดคลอดประมาณ 1-2 สัปดาห์ หมอหน่อยเลยหยุดทำงาน 2 สัปดาห์ก่อนคลอด ปรากฏว่าจนแล้วจนรอดก็ไม่ปวดท้อง หรือมีสัญญาณคลอดใดๆ จนสุดท้ายต้องจบด้วยการผ่าตัดคลอดค่ะ แม้ว่าอยากจะให้คลอดในวันฤกษ์ดี สุดท้ายก็ไม่สามารถทำได้จริงค่ะ


2. การเตรียมพร้อมช่วยได้มาก


จากก่อนหน้านี้ที่หมอหน่อยมีความรู้ การเตรียมของใช้ลูก และ การจัดกระเป๋าไปคลอด ซึ่งหมอหน่อยก็ได้ทำทุกอย่างตามที่เขียนค่ะ ซึ่งช่วยได้มากจริงๆ วันคลอดเอากระเป๋าและของที่เตรียมไว้ขึ้นรถ แค่นั้นไม่มีอะไรขาดเลยค่ะ (มีแต่เกินซะส่วนใหญ่) กลับบ้านมาเราจะวุ่นวายมากเพราะต้องเลี้ยงลูกเต็มตัว การมีของทุกอย่างเตรียมไว้ ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นและไม่เครียดค่ะ


3. ควรอาบน้ำสระผมก่อนไปคลอด


เรื่องนี้สำคัญมากค่ะ เพราะคุณแม่อาจจะไม่ได้อาบน้ำสระผมอีก 1-2 วันกรณีผ่าตัดคลอด และถ้ายิ่งปวดแผลอาจใช้เวลานานกว่าเดิม แนะนำให้อาบน้ำ สระผม ถ้ามีเวลาตัดเล็บให้เรียบร้อยจะดีมากค่ะ


4. ไม่ควรทานอะไรก่อนไปคลอด


จริงๆ เรื่องนี้หมอหน่อยรู้ดีว่าควรงดน้ำงดอาหารไป แต่ด้วยความไม่ระวังและหิวจัด เลยกินอาหารก่อนไป ปรากฏว่า ทำให้เวลาที่ต้องเข้าห้องผ่าตัดช้าขึ้นกว่าเดิม ดังนั้น อดทนไว้ก่อนนะคะแม่ๆ


5. ผ้าอนามัยหลังคลอดอาจไม่จำเป็น


หมอหน่อยเป็นหนึ่งในคนตามกระแส คือมีคนแนะนำให้เตรียมผ้าอนามัยหลังคลอดไป ซึ่งแน่นอนว่าราคาแพงกว่าผ้าอนามัยธรรมดาหลายเท่า แต่จากประสบการณ์ แทบไม่ได้ใช้ค่ะ เพราะที่โรงพยาบาลมีเตรียมให้เราอยู่แล้ว และกลับมาบ้านก็สามารถใช้ผ้าอนามัยแบบธรรมดาได้เลย หมอหน่อยเลยคิดว่าไม่จำเป็น หรือถ้าจะซื้อไม่ต้องซื้อเยอะค่ะ เดี๋ยวจะเหลือแบบหมอหน่อย


6. ของใช้ลูกไม่ต้องเอาไปเยอะ


กรณีนี้ขึ้นกับโรงพยาบาลนะคะ โรงพยาบาลที่หมอหน่อยไปคลอดมีชุดให้ลูกทุกวันตลอดการอยู่โรงพยาบาลมีของใช้เด็กทุกอย่าง ของที่เตรียมไปมากมาย ได้ใช้แค่ชุดกลับบ้าน (จริงๆ เค้ามีให้ด้วยค่ะ แต่อยากใส่ชุดตัวเอง) ดังนั้นถ้าที่โรงพยาบาลมีให้แล้วไม่ต้องเตรียมไปค่ะ


7. เตรียมชุดเด็ก Newborn เผื่อไว้ 2-3 ชุด


เนื่องจากเราไม่สามารถทราบน้ำหนักที่แท้จริงของลูกได้ จากการอัลตร้าซาวด์อาจมีการคลอดเคลื่อนได้ 200-300 กรัม ชุดเด็ก 0-3 เดือน อาจจะใหญ่ไปสำหรับลูก การเตรียมชุดสำหรับ Newborn จะใส่ได้พอดีกว่าสำหรับเด็กแรกเกิด เจ้าหนูอันนาของหมอหน่อยต้องใส่ขนาด Newborn ต่ออีกประมาณ 3 สัปดาห์ถึงจะใส่ชุดขนาด 0-3 เดือนได้ค่ะ


8. เข้าเต้าเร็วน้ำนมมาเร็ว


การที่ลูกเข้าเต้าบ่อยๆ มีประโยชน์มากๆ ยิ่งลูกดูดเป็น มีคนช่วยจัดท่ายิ่งช่วยกระตุ้นให้น้ำนมมาเร็วขึ้น โรงพยาบาลไหนที่ให้ความสำคัญเรื่องนมแม่ จะพาลูกเรามาให้ดูดเต้าทุก 3 ชั่วโมง แม้จะยังไม่มีน้ำนมไหลแต่ก็ช่วยกระตุ้นสัญญาณของร่างกายให้ผลิตน้ำนม น้ำนมของหมอหน่อยเลยไหลตั้งแต่วันแรกหลังคลอด แม้ว่าจะยังปวดแผล ลุกนั่งยังไม่ได้ก็ตาม


9. เครื่องปั๊มนมและหมอนให้นมมีประโยชน์


การใช้เครื่องปั๊มนมช่วยปั๊มหลังคุณแม่ลุกนั่งได้ มีประโยชน์ในการกระตุ้นให้น้ำนมมาดีขึ้น แม่ๆ ควรเตรียมไปใช้ที่โรงพยาบาลด้วยค่ะ โดยปั๊มช่วงว่างจากที่ลูกไม่ได้มาเข้าเต้า ประมาณครั้งละ 10 นาที และหมอนให้นมก็มีประโยชน์ในการช่วยลูกให้เข้าเต้าได้ดีขึ้น โดยแนะนำให้ใช้แบบรูปตัวซีที่พอดีกับเอวแม่พอดี จะเหมาะในการให้นมลูกแรกเกิดมากกว่าค่ะ


10. ให้พยายามเคลื่อนไหวให้เร็ว


การเคลื่อนไหวให้เร็วมีประโยชน์มาก ทำให้ร่างกายฟื้นได้เร็ว แม่ๆ อาจลองลุกเดินไปห้องน้ำ เดินไปส่องดูลูก หรือเดินในห้อง หากมีอาการปวดแผลสามารถขอยาแก้ปวดได้ค่ะ หมอหน่อยลุกเดินหลังจากที่เค้าถอดน้ำเกลือ และสายสวนปัสสาวะออก และสิ่งแรกที่ทำคือการอาบน้ำค่ะ คุณหมอและพยาบาลชมว่า หมอหน่อยฟื้นตัวได้เร็ว หน้าตาสดใสค่ะ


11.คุณพ่อมีความสำคัญ


ต้องยกความดีความชอบให้พ่อบ้าน ซึ่งมีความสำคัญมากๆ แทบต้องทำทุกอย่างให้เรา และต้องอดนอนเหมือนเรา เวลาที่ลูกมาเข้าเต้าดูดนม โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด ซึ่งจำกัดคนเข้า คุณพ่อจึงเป็นเหมือน Hero ที่คอยดูแลคุณแม่และลูกน้อยค่ะ


12. ถ้ามีอะไรสงสัยให้ปรึกษาแพทย์และพยาบาลก่อนกลับบ้านเสมอ


เพราะเมื่อกลับบ้าน ไม่มีใครมาตอบคำถามคุณพ่อ คุณแม่ ได้เหมือนตอนอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ ดังนั้นถ้ามีอะไรสงสัยในอาการของตัวเอง หรือการดูแลลูกให้รีบสอบถาม หรือจดคำถามไว้ถามจะได้ไม่ลืมเมื่อเจอคุณหมอค่ะ


13. พาลูกกลับบ้านคือของจริง


ตอนอยู่ที่โรงพยาบาลโดยส่วนใหญ่ลูกจะอยู่ Nursery มีคนดูแล เราจะรู้สึกว่าลูกเลี้ยงง่ายมาก กิน กับนอน แต่พอกลับบ้านจะเป็นอีกโลกนึง ที่พ่อและแม่จะต้องเรียนรู้ ซึ่งหมอหน่อยก็ผ่านจุดนั้นมาอย่างยากเย็น แล้วเอาไว้หมอหน่อยจะค่อยๆ มาแชร์ประสบการณ์ต่างๆ อีกเรื่อยๆ นะคะ


สุดท้ายนี้ ขอให้คุณพ่อ คุณแม่ทุกคน มีความสุขในวันคลอด และวันที่ได้ดูแลลูกน้อยค่ะ แล้วมาพบกันได้ใหม่ในบทความหน้านะคะ







เขียนโดย

พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย (Tantawan Jomkwanjai.MD)


ดู 2,257 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page