top of page
รูปภาพนักเขียนdrnoithefamily

คลอดธรรมชาติมีข้อดี ข้อเสียอย่างไร? เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการคลอดธรรมชาติ (Normal labor)

อัปเดตเมื่อ 9 ธ.ค. 2566

แม่ๆ หลายคนคงเข้าใกล้วันคลอดเต็มทีแล้วนะคะ ตอนนี้คงเป็นช่วงที่คุณแม่จะตัดสินใจว่าจะเลือกการคลอดแบบไหน จะเป็นการคลอดแบบธรรมชาติ หรือการผ่าตัดคลอด ซึ่งจริงๆ แล้ว ทั้งสองแบบมีข้อบ่งชี้ที่แตกต่างกัน ทั้งยังมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกัน วันนี้หมอหน่อยจะขอพูดถึงการคลอดแบบธรรมชาติ ว่าการคลอดเองมีข้อดี ข้อเสียอย่างไรบ้างค่ะ


แม้ว่าในปัจจุบันการผ่าตัดคลอดจะมีจำนวนมากขึ้น แต่ตามคำแนะนำของ American College of Obstetricians and Gynecologists (ACOG) ยังคงแนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ที่แข็งแรง ไม่มีความเสี่ยง อายุครรภ์มากกว่า 37 สัปดาห์ และทารกหัวกลับเรียบร้อย ให้คลอดแบบธรรมชาติเป็นตัวเลือกแรก


ข้อดีของการคลอดเองตามธรรมชาติ


1.ทารกจะได้รับแบคทีเรียที่มีประโยชน์ตอนผ่านช่องคลอด

ในช่วงที่ทารกผ่านช่องคลอดของแม่ตอนคลอดธรรมชาติ ทารกจะได้รับแบคทีเรียที่มีประโยชน์ หรือ Probiotics เข้าไป ซึ่งส่งผลดีต่อระบบทางเดินอาหารของทารก พบว่าทารกที่ผ่าคลอดจะไม่ผ่านกระบวนการนี้ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดโรคภูมิแพ้ หอบหืด หรือโรคอ้วนในอนาตคได้


2. น้ำในปอดทารกจะถูกบีบออก

ในช่วงที่ทารกผ่านออกมาทางช่องคลอด จะมีการบีบรัดเอาน้ำในปอดที่หลงเหลือบางส่วนออกจากปอดทารก ในกรณีผ่าคลอดน้ำส่วนนั้นจะถูกดูดซึมจากร่างกายทารกไปเอง แต่กรณีกระบวนการดูดซึมน้ำในปอดล่าช้า อาจทำให้เกิดภาวะการหายใจที่ผิดปกติ หรือ transient tachypnea of the newborn (TTN) ซึ่งจะพบได้บ่อยในทารกที่ได้รับการผ่าตัดคลอด


3. พักฟื้นตัวไม่นาน อยู่โรงพยาบาลไม่นาน

การคลอดธรรมชาติร่างกายของแม่จะฟื้นตัวได้เร็ว ซึ่งแม่อาจต้องอยู่โรงพยาบาลหลังคลอดเพียงแค่ 24-48 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้าไม่มีผลแทรกซ้อนก็สามารถกลับบ้านได้ตามปกติ และแม่อาจสามารถกลับมาทำกิจวัตรประจำวันได้ตามปกติหลังคลอดใน 2-3 วัน ในขณะที่การผ่าคลอดเป็นการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งอาจต้องอยู่โรงพยาบาลนาน 3-4 วันเพื่อรอให้อาการต่างๆ ดีขึ้น และใช้เวลานานกว่าที่ร่างกายจะสามารถกลับมาใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ


4. ไม่เสี่ยงกับผลแทรกซ้อนของการผ่าตัด

การผ่าคลอดจัดเป็นการผ่าตัดใหญ่ ซึ่งก็มีโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยงของการผ่าตัดทั้ง ความเสี่ยงการการใช้ยาสลบ ความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายต่อมดลูกหรือทางเดินปัสสาวะ ภาวะเลือดออกผิดปกติ ภาวะติดเชื้อหลังคลอด หรือ ภาวะลิ่มเลือดอุดตันที่ปอด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้จากการผ่าตัดคลอดได้


5. ลูกดูดนมได้เร็ว

การคลอดเองจะช่วยให้ น้ำในกระเพาะของทารกของทารกถูกบีบออกไปด้วย ทำให้ทารกหิวเร็ว และสามารถดูดนมได้เร็ว นอกจากนี้แม่ที่คลอดธรรมชาติจะสามารถฟื้นฟูร่างกายได้ดีกว่าทำให้สามารถให้นมลูกได้เร็วกว่าคนที่ผ่าตัดคลอดด้วย


6. ลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในการตั้งครรภ์ในครั้งต่อไป

การผ่าตัดคลอดอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดผลแทรกซ้อนในการตั้งครรภ์ครั้งต่อไป เช่น ภาวะรกเกาะแน่น รกลอกตัวก่อนกำหนด หรือภาวะมดลูกแตก ซึ่งปัญหาเหล่านี้จะพบได้บ่อยในหญิงที่ผ่าตัดคลอด


7. ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหอบหืดหรือโรคอ้วนในลูก

พบว่าทารกที่เกิดโดยการผ่าตัดคลอด จะมีโอกาสเกิดโรคหอบหืดมากขึ้น 21% และเพิ่มโอกาสเป็นโรคอ้วนมากขึ้น 59% เมื่อเทียบกับเด็กที่คลอดธรรมชาติ


8. ประหยัดค่าใช้จ่าย

การคลอดเองประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่าการผ่าตัดคลอด ทำให้สามารถมีเงินเหลือเพื่อไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ได้


ข้อเสียของการคลอดธรรมชาติ


1.เสี่ยงต่อการฉีกขาดของช่องคลอดหรือบาดเจ็บบริเวณรูทวารหนัก

2.เสี่ยงต่อการหย่อนของกล้ามเนื้ออุ้งเชิงกราน ซึ่งอาจส่งผลต่อการอั้นปัสสาวะและอุจจาระในอนาคตได้

3.อาจมีอาการเจ็บท้องคลอดมากและยาวนาน โดยเฉพาะท้องแรก

4.ทารกอาจได้รับการบาดเจ็บ กรณีต้องใช้เครื่องมือช่วยคลอด


แม้ว่าการคลอดธรรมชาติจะมีข้อดีหลายอย่าง แต่ในบางกรณี ก็อาจไม่สามารถที่จะคลอดตามธรรมชาติได้เนื่องจากอาจมีความเสี่ยงในการคลอด และอาจต้องพิจารณาการผ่าคลอด เช่น

  • มีประวัติผ่าคลอดมาก่อน

  • เป็นครรภ์คามเสี่ยงสูง เช่น เบาหวาน, ความดันโลหิตสูงช่วงตั้งครรภ์

  • ครรภ์แฝด

  • มีผลแทรกซ้อนอื่นๆ ระหว่างการตั้งครรภ์

  • ทารกอยู่ในท่าก้น

อย่างไรก็ตามการตัดสินใจในการคลอด อาจต้องอาศัยหลายๆ ปัจจัยมาพิจารณา ซึ่งคุณหมอที่ดูแลคุณแม่จะช่วยดูแลคุณแม่เป็นอย่างดีค่ะ ไม่ว่าวิธีการไหนในการคลอด ช่วงเวลานั้น เป็นช่วงเวลาที่น่ายินดีและน่าจดจำเสมอค่ะ และคุณแม่เก่งมากๆ ที่อดทนเพื่อลูกน้อยมาจนถึงวันที่เค้าลืมตาดูโลกค่ะ


" You are a great mom"


เขียนโดย

พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย (Tantawan Jomkwanjai) Dr. Noi The Family


#คลอดธรรมชาติดีอย่างไร #ประโยชน์ของการคลอดธรรมชาติ #คลอดธรรมชาติดีมั๊ย








ดู 1,294 ครั้ง0 ความคิดเห็น

Comments


bottom of page