top of page

แคลเซียมสำคัญต่อคุณแม่แค่ไหน? ควรเริ่มทานเมื่อไหร่? ควรเลือกแคลเซียมแบบไหนดี?

อัปเดตเมื่อ 17 ธ.ค. 2565

แคลเซียม (Calcium) มีประโยชน์มากๆ ในช่วงที่ตั้งครรภ์ เนื่องจากมีความสำคัญต่อการสร้างกระดูกและฟันของทารก และทำให้การตั้งครรภ์เป็นไปอย่างราบรื่น แต่ทราบหรือไม่คะว่าจริงๆ แล้ว แคลเซียมจำเป็นตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ และควรทานต่อเนื่องในช่วงหลังคลอดด้วย ที่สำคัญ แคลเซียมแต่ละรูปแบบไม่เหมือนกัน วันนี้หมอหน่อยจะมาเล่าว่า แคลเซียมสำคัญยังไง? ควรทานตอนไหน? และควรเลือกแคลเซียมแบบไหนดี

แคลเซียมสำคัญต่อคุณแม่แค่ไหน? ควรเริ่มทานเมื่อไหร่? ควรเลือกแคลเซียมแบบไหนดี?

ประโยชน์ของแคลเซียมในแม่ท้อง


แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายของแม่และพัฒนาการของลูกน้อยในครรภ์ แต่ร่างกายไม่สามารถสร้างแคลเซียมเองได้ จะได้รับจากการรับประทานเท่านั้น ต้องอาศัยดูดซึมแคลเซียมจากนม พืชผัก และอาหารต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่ แม่ๆ มักจะทานไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน


ควรเริ่มทานแคลเซียมเมื่อไหร่?


คุณแม่หลายคนคิดว่า แคลเซียมจำเป็นเฉพาะในช่วงตั้งครรภ์เท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว แคลเซียมสำคัญในทุกช่วง ตั้งแต่ช่วงก่อนท้อง ช่วงท้อง และหลังคลอด


1.ช่วงก่อนการตั้งครรภ์


แคลเซียมมีความสำคัญต่อการเตรียมตัวก่อนตั้งครรภ์ เพื่อให้คุณแม่มีกระดูกที่แข็งแรงพร้อมในการรับน้ำหนักลูกน้อยในครรภ์ และมีแคลเซียมที่เพียงพอต่อการแบ่งปันให้ลูกน้อย หากร่างกายของคุณแม่มีแคลเซียมสะสมไม่เพียงพอ อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์และสุขภาพของคุณแม่ได้ การทานก่อนท้อง เป็นการทานเพื่อตุนแคลเซียมไว้ให้เพียงพอที่แม่และลูกน้อยต้องการใช้ในช่วงตั้งครรภ์


2.ช่วงระหว่างการตั้งครรภ์


แคลเซียมจำเป็นอย่างมากสำหรับทารกที่จะนำไปสร้างกระดูกและฟัน นอกจากนี้ทารกยังใช้แคลเซียมในการสร้างกล้ามเนื้อ รวมถึงหัวใจและระบบประสาทของทารกก็ใช้แคลเซียมด้วย หากทารกได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ อาจทำให้การสร้างของกระดูกผิดปกติ หรือการเติบโตของอวัยวะบางชนิดไม่ดีเท่าที่ควรได้


ในช่วงไตรมาส 2-3 กระดูกของทารกจะเริ่มสร้างอย่างรวดเร็ว ทารกอาจต้องการใช้แคลเซียมเพิ่มมากถึง 250-350 มิลลิกรัมต่อวัน หากคุณแม่มีแคลเซียมไม่เพียงพอต่อความต้องการของทารก ทารกจะดึงแคลเซียมสะสมของคุณแม่ไปใช้ ส่งผลให้แคลเซียมสะสมของคุณแม่น้อยลงอาจทำให้เกิด ภาวะโรคกระดูกบาง กระดูกพรุน ได้ง่ายขึ้นในภายหลังได้ คุณแม่หลายคนที่ทานแคลเซียมไม่เพียงพอในช่วงตั้งครรภ์และช่วงให้นมบุตรมักเกิดภาวะกระดูกพรุนตามมาได้ง่ายขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น


3.ช่วงหลังคลอด


สำหรับแม่ที่ให้นมแม่ ควรทานแคลเซียมอย่างต่อเนื่องทันทีในหลังคลอด มีการศึกษาพบว่า (1) แม่ให้นมจะเสีย 3-5% ของการสะสมของกระดูกในช่วงให้นม ลูกน้อยต้องการแคลเซียมในการเจริญเติบโตของร่างกาย นมแม่เป็นแหล่งแคลเซียมเดียวของลูกน้อย นอกจากนี้ ในช่วงให้นม ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่ลดลง ทำให้การสะสมแคลเซียมในกระดูกลดลง การทานแคลเซียมให้เพียงพอ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยดูแลสุขภาพทั้งคุณแม่เอง และลูกน้อยที่กำลังเจริญเติบโต


ในแต่ละช่วงคุณแม่ต้องการแคลเซียมเท่าไหร่?


จริงๆ แล้ว ผู้หญิงเราทุกคนควรได้รับการสะสมแคลเซียมไว้ให้เพียงพอตั้งแต่อายุน้อยๆ นะคะ ในหญิงที่อายุน้อยกว่า 18 ปี ต้องการแคลเซียมเสริมมากถึง 1,000 มิลลิกรัม สำหรับในช่วงที่วางแผนตั้งท้อง แม่ท้อง และคุณแม่หลังคลอด ต้องการแคลเซียม 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวัน ถึงจะเพียงพอต่อความต้องการของร่างกายคุณแม่และลูกน้อยค่ะ

เมื่อคุณแม่ท้องขาดแคลเซียมจะเป็นอย่างไร


สัญญาณบ่งบอกเมื่อคุณแม่ท้องขาดแคลเซียม หรือภาวะแคลเซียมในเลือดต่ำ สังเกตได้ง่ายๆ คือ จะเกิดอาการกล้ามเนื้อปวดเกร็งในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย หรือที่เรียกว่าเป็น ตะคริว นั่นเอง เพราะคุณแม่ท้องมีน้ำหนักตัวที่เพิ่มมากขึ้นและมีการแบกรับน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นตามด้วย ทำให้กล้ามเนื้อฝืดไม่ยืดหยุ่นเหมือนเดิม


ตะคริวจะเกิดขึ้นตอน ไอ จาม หรือเปลี่ยนท่านั่ง มักจะเป็นบริเวณท้อง และข้อเท้าเป็นส่วนใหญ่ หากเป็นที่ข้อเท้าจะรู้สึกเจ็บปวดมาก เนื่องจากการหดเกร็งอย่างรุนแรงของกล้ามเนื้อจนเป็นก้อนแข็งๆ โดยส่วนใหญ่คุณแม่ท้องจะเกิดอาการตะคริวเมื่ออายุครรภ์ 6 เดือนขึ้นไป และเป็นมากที่สุดในช่วง 2 เดือนสุดท้ายก่อนคลอด


นอกจากนี้ภาวะขาดแคลเซียมในแม่ท้อง อาจทำให้เกิดภาวะครรภ์เป็นพิษ หรือ Preeclampsia ซึ่งเป็นภาวะฉุกเฉินทางการตั้งครรภ์ได้


แหล่งแคลเซียมที่ดีสุดคือ นม เนื่องจากให้แคลเซียมสูง แต่พบว่า คุณแม่หลายท่าน มีปัญหาไม่สามารถกินนมได้ หรืออาจมีอาการแพ้น้ำตาลแลคโตส (Lactose intolerance) ซึ่งเป็นภาวะที่ลำไส้ไม่สามารถผลิตน้ำย่อยออกมาย่อยน้ำตาลแลคโตสที่มีอยู่ในน้ำนมได้เพียงพอเมื่อน้ำตาลแลคโตสไม่ถูกย่อยและไม่ดูดซึมที่ลำไส้เล็ก ก็จะไปถูกย่อยด้วยขบวนการหมักที่ลำไส้ใหญ่ ซึ่งทำให้เกิดก๊าซในลำไส้ จึงเป็นที่มาของอาการท้องอืด ปวดท้อง ผายลมบ่อย คลื่นไส้อาเจียน ส่วนน้ำตาลที่ไม่ย่อยจะดูดน้ำกลับให้เข้ามาสู่ลำไส้ทำให้เกิดอาการท้องเสียถ่ายเหลว โดยอาการจะเกิดขึ้นหลังดื่มนมประมาณ 30 นาที – 2 ชั่วโมง ความรุนแรงขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำตาลแลคโตสที่ได้รับ


ทำไมกินแคลเซียมแล้วท้องผูก ?


เพราะแคลเซียมเสริมส่วนใหญ่ คือ“แคลเซียมคาร์บอเนต” ทำจากหินปูน ที่มีข้อดีคือราคาถูก และมีสัดส่วนแคลเซียมต่อเม็ดในปริมาณที่สูง แต่ร่างกายดูดซึมไปใช้ได้ยาก สามารถดูดซึมได้เพียงประมาณ 10% เท่านั้น ยิ่งในผู้ที่มีปัญหาในระบบย่อยอาหาร เช่น หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุที่มีกรดในกระเพาะอาหารน้อย หรือผู้ที่รับประทานยาลดกรดในกระเพาะอาหารเป็นประจำ การดูดซึมก็ยิ่งแย่ลง เมื่อร่างกายไม่สามารถดูดซึมได้ทั้งหมด จึงตกค้างในลำไส้ ทำให้รู้สึกแน่นท้อง ท้องอืด อุจจาระเป็นก้อนแข็ง ทำให้เกิดอาการท้องผูก


ควรเลือกแคลเซียมรูปแบบไหนดี


ผลิตภัณฑ์เสริมแคลเซียม สามารถแบ่งออกได้หลายชนิด มีจำหน่ายทั้งในรูปแบบที่เป็นเม็ดฟู่ ชนิดเม็ด และชนิดแคปซูล โดยอยู่ในรูปของเกลือของแคลเซียมชนิดต่าง ๆ ซึ่งให้ปริมาณแคลเซียมแตกต่างกัน และร่างกายของคนเราสามารถดูดซึมแคลเซียมแต่ละชนิดได้ไม่เท่ากัน


  • แคลเซียมคาร์บอเนต (calcium carbonate) มีใช้ทั่วไปกว่า 90% เพราะราคาถูก ให้ปริมาณแคลเซียมร้อยละ 40 แต่ร่างกายดูดซึมใช้สร้างมวลกระดูกได้เพียง 10% จึงนำไปใช้สร้างกระดูกจริงได้น้อย ส่วนที่ดูดซึมไม่ได้ ต้องขับถ่ายออกมา จึงทำให้ท้องอืด แน่นท้อง และท้องผูก

  • แคลเซียมซิเทรต (calcium citrate) ให้ปริมาณแคลเซียมร้อยละ 21 ร่างกายดูดซึมได้ประมาณ 50%

  • แคลเซียมแอล - ทรีโอเนต (calcium L-threonate) ) ดูดซึมได้ 95% แต่ให้ปริมาณแคลเซียมสำหรับดูดซึมสร้างมวลกระดูกได้เพียงร้อยละ13

  • แคลเซียมฟอสเฟต (calcium phosphate) ให้ปริมาณแคลเซียมร้อยละ 24 ร่างกายดูดซึมได้ 100%

จะเห็นได้ว่า แคลเซียมฟอสเฟต เป็นฟอร์มที่นำไปใช้สร้างมวลกระดูกได้มากที่สุด ร่างกายสามารถดูดซึมไปใช้ได้ 100% จึงไม่มีผลข้างเคียงทำให้ท้องอืด หรือท้องผูก จึงเป็นรูปแบบที่แนะนำให้แม่ๆ มองหา


ซึ่งแคลเซียมฟอสเฟตนี้ จะเป็นฟอร์มที่อยู่ในอาหารธรรมชาติ เช่น นม


แต่จะทำอย่างไร หากคุณแม่อย่างเราหลาย ๆ ท่านไม่สามารถทานนมได้ …

พรีม มิลค์ แคลเซียม ทางเลือกใหม่สำหรับคุณแม่ท้อง (สายสตรอง)


พรีม มิลค์ แคลเซียม ให้ทั้งแคลเซียมและแร่ธาตุธรรมชาติจากนม ทางเลือกใหม่สำหรับคุณแม่ท้องที่แพ้นมหรือแพ้น้ำตาลแลคโตสในนม สามารถกินได้อย่างสบายท้อง


พรีม มิลค์ แคลเซียม ไม่มีน้ำตาลแลคโตส จึงไม่ทำให้เกิดอาการท้องอืดหรือท้องเสีย และยังดูดซึมง่าย ไม่ทำให้ท้องผูก ทำให้เหมาะกับคุณแม่ท้อง แม่หลังคลอด ที่จะมีปัญหาท้องผูกได้ง่าย


พรีม มิลค์ แคลเซียม 1 เม็ด ให้แคลเซียม = นม 1 แก้ว ได้แคลเซียมแบบง่ายๆ และสะดวกมากๆ ตอบโจทย์คุณแม่ท้องที่สุดแล้วในยุคนี้ค่ะ

พรีม มิลค์ แคลเซียม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมชนิดเม็ด

  • ให้แคลเซียมธรรมชาติจากนม ดูดซึมง่าย ไม่ทำให้ท้องผูก

  • ให้แร่ธาตุที่จำเป็นต่อการช่วยเสริมสร้างมวลกระดูกให้แข็งแรง

  • พลัส วิตามินดี 3 ช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเพิ่มขึ้น

  • ไม่มีแลคโตส คุณแม่ท้องหรือคนทั่วไปที่แพ้นมสามารถกินได้ ไม่ทำให้ท้องอืดหรือท้องเสีย

  • ไม่มีโปรตีน ไม่มีไขมัน และไม่มีคอเลสเตอรอล

  • 1 เม็ด ให้แคลเซียม = นม 1 แก้ว

  • เป็นแคลเซียมสกัดจากนม จัดอยู่ในแคลเซียมฟอสเฟต ซึ่งเป็นแคลเซียมชนิดเดียวกับกระดูกของเรา ดูดซึมได้ 100%

  • หอมกลิ่นนม รับประทานง่าย

พรีม มิลค์ แคลเซียม สกัดจากนมโคคุณภาพดี วัตถุดิบนำเข้าจากประเทศสหรัฐอเมริกา ให้ทั้งแคลเซียม และแร่ธาตุธรรมชาติจากนม ซึ่งมีอัตราส่วนใกล้เคียงกันกับที่กระดูกคนเราต้องการค่ะ

“เพราะกระดูกที่แข็งแรงไม่ได้ต้องการเพียงแค่แคลเซียม”




โดยมีงานวิจัยทางคลินิก ศึกษาผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน ระยะเวลา 2 ปี พบว่า การทานแคลเซียม + แร่ธาตุ ที่กระดูกต้องการ จะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูกได้ ในขณะที่ทานแคลเซียม หรือแร่ธาตุเพียงอย่างเดียว ไม่สามารถเพิ่มมวลกระดูกได้ ยังคงมีการสูญเสียมวลกระดูกไปตามวัยในอัตราที่ลดลง




วิธีรับประทาน พรีม มิลค์ แคลเซียม

  • คุณแม่ท้อง รับประทานวันละ 3 เม็ด โดยรับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น

  • คนทั่วไป รับประทานวันละ 2 เม็ด โดยรับประทานครั้งละ 1 เม็ด หลังอาหารเช้าและเย็น

บทสรุป


แคลเซียมจำเป็นสำหรับทุกเพศทุกวัย สำหรับผู้หญิงที่อยู่ในวัยเจริญพันธุ์ ควรเริ่มทานตั้งแต่ก่อนท้อง ช่วงท้องและช่วงหลังคลอด เนื่องจากในทุกๆ ช่วง แคลเซียมล้วนมีความสำคัญต่อความแข็งแรงของร่างกาย ของทั้งคุณแม่และลูกน้อย


นอกจากนี้ การเลือกกินแคลเซียมไม่ว่าจะเป็นคุณแม่ท้องหรือคนทั่วไป กินได้ทั้งในเชิงป้องกันและรักษาภาวะกระดูกบาง กระดูกพรุน ควรเลือกกินสูตรแคลเซียม+แร่ธาตุที่สกัดจากธรรมชาติ เพราะร่างกายดูดซึมได้ง่ายทำให้ท้องไม่ผูก และถ้าดูดซึมได้ 100% ยิ่งดีถือว่าได้ประโยชน์เต็มหน่วย เพราะถ้ากินแต่แคลเซียมอย่างเดียวไม่มีแร่ธาตุที่กระดูกต้องการเลยก็ไม่สามารถเพิ่มมวลกระดูกให้แข็งแรงได้


สำหรับคุณแม่ที่ท้องที่ได้รับคำแนะนำว่า "นม" คือแหล่งแคลเซียมที่ดีที่สุด แต่บางท่านดื่มนมไม่ได้เพราะมีอาการแพ้นม ควรเลือกกินแคลเซียมสกัดจากนมสูตรไม่มีแลคโตส คนแพ้นมกินได้ ท้องไม่อืด ท้องไม่เสีย และแคลเซียมสูตรที่ดีควรใส่วิตามินดี 3 มาด้วย เพราะวิตามินดีช่วยให้ลำไส้ดูดซึมแคลเซียมไปใช้ได้ดีขึ้น


การเลือกแคลเซียมเสริม ควรเลือกแบบที่ดูดซึมได้ดี ไม่ส่งผลต่ออาการท้องผูก และมีแร่ธาตุอื่นๆ ที่จำเป็นต่อร่างกาย และควรทานแคลเซียมให้ได้ 800-1,000 มิลลิกรัมต่อวันค่ะ


อ้างอิง

ปริมาณสารอาหารอ้างอิงที่ควรได้รับประจำวัน สำหรับคนไทย พ.ศ. 2563

สำนักโภชนาการ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข


เขียนโดย

พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย (Tantawan Jomkwanjai.MD)


บทความนี้สนับสนุนโดย PREME Milk Calcium พรีม มิลค์ แคลเซียม

คุณแม่ท่านไหนสนใจ พรีม มิลค์ แคลเซียม ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารแคลเซียมชนิดเม็ด ให้แคลเซียมธรรมชาติจากนม ดูดซึมง่าย ไม่ทำให้ท้องผูก สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม และสั่งซื้อได้ที่

Line: @premehealthcare



ดู 12,958 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page