ก่อนหน้านี้หมอหน่อยได้เล่าถึงประโยชน์ของโปรไบโอติกในคุณแม่ที่ตั้งท้องอยู่มาแล้ว (อ่านเพิ่มเติมเรื่องโปรไบโอติกในคนท้อง) วันนี้เลยจะมาเล่าถึงบทบาทของโปรไบโอติกในเด็กทารกบ้าง แม่ๆ หลายคนอาจพอเคยได้ยินประโยชน์ของโปรไบโอติกต่อทารก แต่โปรไบโอติกนั้นมีประโยชน์ต่อลูกน้อยของเราอย่างไร? มีประโยชน์ต่อทารกจริงหรือไม่? และปลอดภัยหรือไม่? วันนี้หมอหน่อยมีรายละเอียดเรื่องนี้ มาเล่าให้แม่ๆ ฟังค่ะ
โปรไบโอติกคืออะไร? What are probiotics?
โปรไบโอติก คือจุลินทรีย์ที่ดีหลายชนิดที่อยู่ในร่างกายของเราซึ่งมีตั้งแต่ 400 จนถึง 4,000 สายพันธ์ในร่างกาย ซึ่งโปรไบโอติกช่วยทำให้ระบบทางเดินอาหารสมดุล ช่วยในการย่อย การดูดซึมอาหาร ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย ทั้งยังช่วยลดการติดเชื้อบางชนิด และลดโอกาสการดื้อยาได้
ปกติจะพบโปรไบโอติกในอาหารหลายชนิด เช่น
โยเกิร์ต
กิมจิ
sauerkraut
โปรไบโอติกที่คุ้ยเคยกัน เช่น
Lactobacillus
Bifidobacteriu
Saccharomyces boulardii
ประโยชน์ของโปรไบโอติกต่อทารก
เด็กทารกที่เกิดใหม่ๆ ระบบทางเดินอาหารจะยังไม่มีแบคทีเรียกลุ่มโปรไบโอติก เมื่อเวลาผ่านไปทารกจะเริ่มมีโปรไบโอติกเพิ่มขึ้น ทำให้ระบบทางเดินอาหารแข็งแรงขึ้น ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น ป้องกันการติดเชื้อ
ในช่วงที่ทารกยังไม่มีโปไบโอติกที่มากพอ อาจมีอาการอืดท้อง ท้องผูก ท้องเสีย หรือ อาการโคลิก (Colic) ได้ง่าย เด็กทารกอาจจะได้รับโปรไบโอติกในช่วงที่ผ่านช่องคลอดของคุณแม่ การทานนมแม่ หรือจากนมผงบางชนิด รวมถึงผลิตภัณฑ์ที่มีโปรไบโอติกเสริมสำหรับทารก ทารกที่คลอดโดยการผ่าตัดคลอดมักมีปัญหาเรื่องการขาดโปรไบโอติกได้ง่าย
ประโยชน์ของโปรไบโอติกต่อทารก
ดูดซึมสารอาหาร ดูดซึมวิตามิน เช่นวิตามินเค วิตามินบี
ช่วยในการย่อยอาหาร
ช่วยการขับถ่าย
ช่วยในการสร้างภูมิคุ้มกันของร่างกาย
ช่วยป้องกันเชื้อโรคบางชนิดไม่ให้ก่อโรค
ช่วยลดอาการปวดท้อง ท้องอืด
ลดอาการโคลิก (Colic)
ลดโอกาสเกิดโรคภูมิแพ้ โรคหอบหืด และการแพ้อาหาร
ลดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ
ทั้งยังมีการศึกษาพบว่า โปรไบโอติกบางชนิด ช่วยลดอาการของระบบทางเดินอาหาร เช่น กรดไหลย้อน ท้องผูก และช่วยลดการร้องไห้ของเด็กได้ (1)
การเลือกโปรไบโอติก
ไม่ใช่โปรไบโอติกทุกชนิดจะเหมือนกัน ดังนั้นการเลือกโปรไบโอติกให้ลูกน้อย ควรปรึกษาแพทย์ร่วมด้วยเสมอ ซึ่งโปรไบโอติกสำหรับทารกส่วนใหญ่จะอยู่ในรูปแบบหยด ควรเลือกชนิดที่น่าเชื่อถือ และได้รับคำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ แล้วมาติดตามเรื่องราวดีๆ ได้ใหม่ในบทความหน้านะคะ
เขียนโดย
พญ. ทานตะวัน จอมขวัญใจ หมอหน่อย ( Tantawan Jomkwanjai. MD)