top of page

เข้าใจ มูกไข่ตก เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ (How to check your fertile cervical mucus?)

อัปเดตเมื่อ 28 มี.ค. 2566

มูกไข่ตก หรือ บางคนเรียก มูกช่องคลอด (Cervical mucus) เป็นสัญญาณหนึ่งที่จะช่วยบอกช่วงเวลาไข่ตกได้ดี มูกไข่ตกหรือมูกช่องคลอด (cervical mucus) คืออะไร? มีความสำคัญอย่างไร? มีวีธีการดูอย่างไร? วันนี้ไปหาคำตอบกันค่ะ


มูกไข่ตก หรือ มูกช่องคลอด (Fertile cervical mucus) คืออะไร?


มูกไข่ตก หรือ บางคนรู้จักกันในชื่อ มูกช่องคลอด (cervical mucus) ซึ่งมูกนี้จริงๆแล้วไม่ได้หลั่งมาจากช่องคลอด แต่เป็นมูกที่หลั่งออกมาจากต่อมบริเวณปากมดลูก(Cervix) จากการกระตุ้นของฮอร์โมน Estrogen ที่เพิ่มมากขึ้นช่วงไข่ตก แตกต่างจากน้ำหล่อลื่นที่หลั่งในช่วงที่มีความต้องการทางเพศที่จะหลั่งมาจากบริเวณช่องคลอด(Vagina) ดังนั้นการเรียก มูกช่องคลอดอาจจะไม่ถูกต้องนัก


ช่วงใกล้ไข่ตกฮอร์โมน Estrogen จะสูงขึ้น ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของมูกจากปากมดลูก (Cervix) โดยการเปลี่ยนแปลงของมูกจะขึ้นอยู่กับฮอร์โมนที่มากระตุ้น มูกจากปากมดลูกจะสามารถสังเกตได้ทางช่องคลอด เนื่องจากมูกจะไหลออกมาทางช่องคลอด โดยการเปลี่ยนแปลงของมูกจะเริ่มตั้งแต่หลังประจำเดือนหมดคือ


แห้ง (Dry) --> เหนียว (Sticky) --> ครีม (Creamy) --> คล้ายน้ำ (wet&watery) เป็นช่วงที่ควรเริ่มมีเพศสัมพันธ์--> คล้ายไข่ขาวดิบ (Raw egg white) เป็นช่วงใกล้ไข่ตก --> เหนียว (Sticky) หลังไข่ตก


ช่วงที่มูกช่องคลอด เริ่มเปลี่ยนเป็นน้ำ(wet&watery) เป็นช่วงที่ estrogen เริ่มสูงและไข่มักจะตกหลังจากนั้นประมาณ 3-5 วัน จึงเป็นช่วงที่สามารถเริ่มมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยช่วงมูกที่สามารถบอกช่วงใกล้ไข่ตกนั้น จะมีลักษณะใส ยืดได้ คล้ายไข่ขาวดิบ (Raw egg white mucous) เป็นสัญญาณว่าช่วงนั้นเป็นช่วงที่มีโอกาสตั้งครรภ์สูง (Fertile cervical mucous) ให้มีเพศสัมพันธ์ในวันนั้น และมีสม่ำเสมอต่อเนื่องอีก 2-3 วัน


ความสำคัญของ มูกไข่ตก (Fertile cervical mucous) คือ

มูกที่ออกมาช่วงก่อนไข่ตก หรือ fertile cervical mucus นั้น มีประโยชน์ ทั้งเป็นน้ำหล่อลื่นที่ดีขณะที่มีเพศสัมพันธ์ ช่วงทำให้สเปิร์มเคลื่นที่ได้ดี สเปิร์มเคลื่อนที่ไปที่ปีกมดลูกเพื่อรอเจอไข่ได้ดี สามารถลดความเป็นกรดบริเวณช่องคลอด ช่วยชะล้างไขมันบริเวณหัวของสเปิร์มทำให้สเปิร์มผสมกับไข่ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ยังมีสารอาหารหล่อเลี้ยงสเปิร์มทำให้สเปิร์มมีชีวิตอยู่นานขึ้นด้วย


เทคนิคการตรวจหามูกไข่ตก (How to check fertile cervical mucous?)


การเช็คหามูกไข่ตกนั้น อาจสามารถเริ่มทำเรื่อยๆ ตั้งแต่หลังประจำเดือนหมด โดยมีเทคนิคในการตรวจหาอยู่ 2 แบบคือ ดูจากภายนอก และภายใน


การดูทางภายนอก

เนื่องจากมูกจากปากมดลูกนั้นจะออกมาทางช่องคลอด จึงอาจสามารถเห็นได้จากทางภายนอก วิธีที่ง่ายที่สุด คือการดูมูกที่ติดที่บริเวณกางเกงใน หรือกระดาษทิชชูหลังเข้าห้องน้ำ หรือบางครั้งอาจพบได้หลังขับถ่าย เนื่องจากพบว่าการบีบตัวของลำไส้ทำให้มูกจากปากมดลูกถูกขับออกมาได้ง่ายขึ้น


การดูจากภายใน

การดูให้แน่ชัด อาจจำเป็นต้องตรวจเข้าไปด้านในช่องคลอด ซึ่งวิธีการตรวจคือ

  • ล้างมือให้สะอาด

  • ใช้นิ้ว 1-2 นิ้วใส่เข้าไปทางช่องคลอด อาจทำได้ง่ายในท่านั่นหรือท่านอน

  • ใช้นิ้วสัมผัสมูกบริเวณปากมดลูกเบาๆ

  • เมื่อได้มูกแล้วนำมือออกมา แล้วดูลักษณะของมูก และลองยืดมูกดูว่ายืดได้หรือไม่

เมื่อได้ลักษณะของมูกในแต่ละวัน ในบันทึกติดตามโดยอาจจดในกระดาษหรือบันทึกใน Application






มูกไข่ตก


จะแยกมูกไข่ตกกับน้ำอสุจิอย่างไร (Difference between fertile cervical mucous and semen)


ในการตรวจหามูกไข่ตกนั้น แนะนำว่าไม่ควรทำหลังมีเพศสัมพันธ์ เพราะอาจเกิดความสับสนระหว่างมูกไข่ตกกับน้ำอสุจิได้ เนื่องจาก 2 อย่างนี้มีหน้าที่คล้ายกันคือช่วยหล่อเลี้ยงสเปิร์ม แต่จะแต่ต่างกันที่ มูกไข่ตก จะสามารถยืดออกจากกันได้ 1-2 นิ้ว แต่น้ำอสุจิจะไม่สามารถยืดออกจากกันได้


การที่เราสามารถที่จะติดตามลักษณะของมูกช่องคลอด ทำให้เราสามารถวางแผนในการมีเพศสัมพันธ์ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากมูกไข่ตก (Fertile cervical mucus) พบในหญิงแทบทุกคน และไม่ต้องใช้อุปกรณ์ในการตรวจ อย่างไรก็ตามมีบางปัจจัยที่อาจมีผลทำให้มูกไข่ตกผิดปกติ มีคุณภาพที่แย่ได้ และมีบางปัจจัยที่สามารถเพิ่มคุณภาพให้มูกไข่ตกได้ ติดตามอ่านเรื่อง "เพิ่มคุณภาพให้มูกไข่ตก เพิ่มโอกาสตั้งครรภ์" เพิ่มเติมได้ค่ะ


Tantawan Pasopa. MD (พญ. ทานตะวัน พระโสภา) drnoithefamily


#drnoithefamily #fertility #fertilecervicalmucous #cervicalmucous #fetiletime #อยากมีลูก #เทคนิคมีลูกง่าย #เตรียมตัวก่อนท้อง #เตรียมพร้อมตั้งครรภ์ #ความรู้คุณแม่มือใหม่


ดู 15,172 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page